ทาร์ เป็นสารอินทรีย์ที่เกิดจากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ ซึ่งมีลักษณะเป็นของเหลวสีดำหนืด มีความหนาแน่นสูง และมีองค์ประกอบทางเคมีที่ซับซ้อน ทาร์สามารถแบ่งออกได้หลายชนิดขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดและวิธีการกลั่น เช่น ทาร์จากถ่านหิน ทาร์ไม้ หรือทาร์น้ำมันดิบ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป
ในอุตสาหกรรม ทาร์ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ
1. คุณสมบัติเป็นสารยึดเกาะ (Adhesive Properties):
ทาร์สามารถยึดติดกับพื้นผิวต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตสารยึดติด เช่น ทารยางมะตอยสำหรับงานก่อสร้าง
2. คุณสมบัติกันน้ำ (Waterproofing Properties):
ทาร์มีความสามารถในการกันน้ำได้อย่างดี ซึ่งทำให้เป็นส่วนประกอบสำคัญในตัวนับที่ใช้กันซึมและกันน้ำสำหรับหลังคาและสิ่งปลูกสร้าง
3. คุณสมบัติความร้อนสูง (High Heat Resistance):
ทาร์สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการผลิตวัสดุที่ต้องใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ท่อไอเสียรถยนต์
4. คุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อน (Thermal Insulation Properties):
ทาร์สามารถทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการผลิตวัสดุฉนวนกันความร้อนในอาคารและอุปกรณ์ต่าง ๆ
การผลิตทาร์:
กระบวนการผลิตทาร์ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดของมัน
-
ทาร์จากถ่านหิน (Coal Tar): ผลิตโดยการ加熱ถ่านหินในเตาเผาไร้ ऑกซิเจน ทำให้เกิดแก๊สและไอน้ำที่ควบแน่นเป็นทาร์
-
ทาร์ไม้ (Wood Tar): ผลิตโดยการเผาwood log ในเตาเผาปิด ทาร์จะไหลออกมาจากร่องไม้
-
ทาร์น้ำมันดิบ (Petroleum Tar): ผลิตโดยการกลั่นน้ำมันดิบที่อุณหภูมิสูง ทำให้เกิดสารต่าง ๆ รวมทั้งทาร์
ทาร์เป็นวัสดุที่มีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างมากในอุตสาหกรรม
ประเภท | การใช้งาน |
---|---|
ทาร์จากถ่านหิน | ผลิตสี, ยา, สารยึดติด, และผลิตภัณฑ์ทางเภสัช |
ทาร์ไม้ | ผลิตน้ำมันขี้เหล็ก, สารกันรา, และสารเคลือบผิว |
ทาร์น้ำมันดิบ | ผลิตถนน, สนามกีฬา, และหลังคา |
ทาร์ เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของ วัตถุดิบธรรมชาติ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในหลากหลายอุตสาหกรรม
ทาร์: คลัสเตอร์แห่งความเป็นไปได้สำหรับสีและยา
จากการใช้งานที่หลากหลาย ทาร์ถือเป็น “คลัสเตอร์แห่งความเป็นไปได้” สำหรับอุตสาหกรรมสีและยา ในฐานะนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสีและยา คลัสเตอร์นี้หมายถึงกลุ่มของสารเคมีที่มีคุณสมบัติเฉพาะและสามารถนำมาดัดแปลงเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างน่าสนใจ
ทาร์ในอุตสาหกรรมสี:
ทาร์เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสีน้ำมัน สีดำ และสีอื่นๆ ที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศ ทาร์ช่วยให้สีมี
- ความแข็งแรง
- ความหนาแน่น
- ความกันน้ำ
- ความทนทานต่อรังสียูวี
ทาร์ในอุตสาหกรรมยา:
ทาร์ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยารักษาโรคผิวหนัง เช่น ยาสำหรับรักษาโรคสะเก็ดเงิน โรคเริม และโรคผิวหนังอื่น ๆ ทาร์มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านเชื้อรา
นอกจากนี้ ทาร์ยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า เช่น ครีมกันแดด สบู่ และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ทาร์: การมองไปข้างหน้า:
ในอนาคต ทาร์ยังคงมีศักยภาพในการพัฒนามากขึ้น อุตสาหกรรมสีและยาอาจจะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อแปรรูปทาร์ให้มีความบริสุทธิ์สูงขึ้น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อควรระวัง:
- ทาร์บางชนิด อาจมีสารพิษ
- การสัมผัสทาร์โดยตรงอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- ควรปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยในการทำงานและสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน
ด้วยความระมัดระวัง และการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทาร์จะยังคงเป็น วัตถุดิบที่มีค่าและมีความยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมในอนาคต